หัวเรือใหญ่ SoftBank ออกโรงด่าหน่วยงานรัฐบาลญี่ปุ่นว่าโง่เง่าที่ออกกฎหมายห้าม บริการไรด์-แชริ่ง ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีต้องตามหลังประเทศอื่นๆ
มาซาโยชิ ซอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่ม SoftBank บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและโทรคมนาคมกล่าวว่า การห้ามบริการรถแบ่งปันร่วมโดยสารหรือไรด์-แชริ่ง (อาทิ Grab หรือ Uber) ทำให้ญี่ปุ่นต้องตามหลังคู่แข่งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีมากมาย อาทิปัญญาประดิษฐ์หรือกลุ่มธุรกิจที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริการที่เกี่ยวข้องกับการเงิน (FinTech)
“ไรด์-แชริ่งถูกกฎหมายควบคุมในญี่ปุ่น ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีประเทศที่โง่เง่าถึงเพียงนี้” ซอนกล่าวระหว่างกิจกรรมพิเศษประจำปีที่จัดขึ้นเพื่อลูกค้าและซัพพลายเออร์
ซอน วัย 60 ปี เป็นนักธุรกิจที่ว่ากันว่ามั่งคั่งที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่นในเวลานี้ เขาได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีล้ำสมัยและมักทุ่มเงินในธุรกิจนอกกระแส เขาเพิ่งลงทุนใน Uber จำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐและยังลงทุนด้านอีคอมเมิร์ซอีกมากมาย
รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายห้ามผู้ขับขี่ “ที่ไม่ใช่มืออาชีพ” ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการรับส่งลูกค้าเพื่อแสวงหากำไรเนื่องจากกังวลด้านความปลอดภัย พร้อมกับมีอุตสาหกรรมแท็กซี่ที่เข้มแข็งที่รวมตัวกันคัดค้านการอนุญาตให้ธุรกิจไรด์-แชริ่งเปิดเสรีในประเทศ
กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งของญี่ปุ่นระบุว่า เห็นได้ชัดว่าบริการไรด์-แชริ่งมุ่งเน้นที่ผู้ขับขี่ที่ทำหน้าที่รับส่งผู้โดยสาร แต่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องการดูแลรักษาตัวรถให้คงสภาพดีและการบริหารจัดการด้านต่างๆ
“รัฐบาลเชื่อว่าการนำเสนอบริการรับส่งผู้คนเพื่อแสวงหากำไรจะทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยและการปกป้องคุ้มครองผู้ใช้งาน ดังนั้นจะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ” รัฐบาลญี่ปุ่นระบุ
ปัจจุบัน SoftBank จับมือกับ Didi บริษัทไรด์-แชริ่งของจีนเพื่อให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่คล้ายไรด์-แชริ่งในญี่ปุ่นแต่ใช้รถยนต์แท็กซี่ที่มีอยู่ในระบบตามกฎหมาย
ติดตามข่าวแวดวงยานยนต์ก่อนใครที่ Autostation.com