ไมล์ส เนอร์นแบร์เกอร์ หัวหน้าฝ่ายออกแบบภายนอกของแอสตัน มาร์ติน ระบุถึงความสวยงามของแอสตัน มาร์ติน แวนเทจ (Aston Martin Vantage) รุ่นใหม่ว่า ถ้าคุณบอกว่าแอสตัน มาร์ติน ดีบี11 เป็นสุภาพบุรุษ แวนเทจรุ่นใหม่ของเราก็คงจะเป็นผู้ล่า (“If the DB11 is the gentleman, the Vantage is the hunter”)
ดูจะไม่เป็นคำกล่าวที่เกินจริง เมื่อมองกลับไปที่รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการเผยโฉมออกมาให้ดูกันภายใต้สีเหลืองสดของแบรนด์ แวนเทจใหม่มาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดุดัน กระจังหน้าขนาดใหญ้ ห้องโดยสารเต็มไปด้วยมัดกล้าม ไฟหน้าขนาดเล็กลงแต่ดูดุดัน ล้อขนาดใหญ่ และกรอบไฟหลังเพรียวบางที่ดูลงตัว และแน่นอน ท่อไอเสียที่ดูโดดเด่นบนท้องถนน
แน่นอนว่าแอสตัน มาร์ติน ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้อย่างชัดเจน ในฐานะรถสปอร์ตคูเป้ เครื่องยนต์วางด้านหน้า พร้อมกรอบเส้นหลังคาที่อยู่ค่อนข้างต่ำ ทำให้รถคันนี้ดูโฉบเฉี่ยวและดุดันกว่ารุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด
แม้จะมีความยาวที่สั้นกว่าคู่แข่งตัวฉกาจอย่างปอร์เช่ 911 อยู่ 2 นิ้ว แต่ระยะฐานล้อของแวนเทจนั้นกลับยาวกว่าปอร์เช่ คาร์เรร่าอยู่เกือบ 10 นิ้วเลยทีเดียว ซึ่งตัวฐานล้อที่ยาวและโอเวอร์แฮงค์หน้าที่สั้น ทำให้รถคันนี้ดูดุดัน แถมยังให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่สะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย
ห้องโดยสารภายในออกแบบในรูปแบบของค็อกพิทของรถแข่งมากขึ้น ด้วยการออกแบบแผงแดชบอร์ดและประตูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกลับผู้ขับขี่ และตำแหน่งการนั่งที่หดต่ำลงไป ก็ทำให้ผู้ขับขี่ที่ตัวสูงนั้น สามารถก้าวเข้าออกจากห้องโดยสารได้โดยสะดวก
ด้วยการบาลานซ์น้ำหนักแบบ 50/50 มาพร้อมเครื่องยนต์วี8 ไบเทอร์โบชาร์จขนาด 4.0 ลิตร วางตำแหน่งเกือบกึ่งกลางรถ พัฒนามาบนโครงสร้างแชสซีอลูมิเนียมรุ่นใหม่ ให้กำลังสูงสุด 503 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 505 ปอนด์-ฟุต เพียงพอต่อการวิ่ง 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.6 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุด 195 ไมล์ต่อชั่วโมง
มีรายงานว่ายอดจองของแอสตัน มาร์ติน แวนเทจใหม่ สำหรับปี 2561 ได้หมดลงไปเป็นที่เรียบร้อย หมายความว่าลูกค้าที่ตัดสินใจตอนนี้จะต้องรอไม่น้อยกว่า 1 ปี ส่วนใครที่จองไปแล้ว กำหนดการส่งมอบจะเริ่มต้นในช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไป