2021 New Honda X-ADV รุ่นปรับโฉมใหม่ ยังคงเป็นเครื่องยนต์ 750 ซีซี สองสูบเรียง แต่มีการอัพเกรดไส้ในเครื่องยนต์ และเกียร์ใหม่หลายจุด
หลังจากรุ่นโฉมก่อนหน้านี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 วันนี้ในการปรับโฉมใหม่ ให้ดุดันมากยิ่งขึ้น เบาะนั่งปรับดีไซน์ใหม่ ให้ขาถึงพื้นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ใต้เบาะ 22 ลิตร ใหญ่กว่าเดิม มีช่องจ่ายไฟ USB ไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบเดียวกับใน CRF1100 หรือ Africa Twin 1100 เรือนไมล์เป็นแบบ TFT สี่สี 5 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Honda Smartphone Voice Control System แบบใน Forza 750
เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ SOHC 8 วาล์วมีพละกำลังมากกว่าเดิม 4 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 69 Nm เรดไลน์สูงขึ้น 600 รอบต่อนาที เกียร์ 1-3 ปรับให้สั้นลงเพื่อความสปอร์ต แต่เกียร์ 4-6 จะยาวขึ้น เพื่อความประหยัดมากกว่าเดิม ปรับจุดศูนย์ถ่วงน้ำหนักใหม่ เบาลง 1.4 กก.
คันเร่งไฟฟ้า การทำงานของวาล์วที่ละเอียดขึ้น ระบบไอเสีย ทำให้เครื่องยนต์ส่งพละกำลังได้มากกว่าเดิม และลากรอบได้ถึง 7,000 รอบต่อนาที พละกำลังสูงสุด 57.7 แรงม้าที่ 6,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 69 Nm ที่ 4,750 รอบต่อนาที
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับขนาด 41 มม. ที่ด้านหน้า โช้คหลังเดียวแบบ Pro-Link ระบบเบรกด้านหน้าเป็นเรเดียลเมาท์คาลิเปอร์สี่ลูกสูบที่ด้านหน้า จานเบรกขนาด 296 มม. ดิสก์หลังเดี่ยว 240 มม. คาลิเปอร์สูบเดี่ยว ล้อหน้า 17 ล้อหลัง 15 ยางไซส์ 120 และ 160 ตามลำดับ
นอกจากคันเร่งไฟฟ้าแล้ว ยังมีโหมดการขับขี่ 4 โหมด และ USER เทคโนโลยี Honda Selectable Torque Control ปรับได้ 3 ระดับ
Standard – ให้ความสมดุลทั้งพละกำลัง เอ็นจิ้นเบรก HSTC และระบบ ABS จะทำงานในระดับสูงสุด
Sport – ให้การตอบสนองของเครื่องยนต์และเอ็นจิ้นเบรกที่ดุดัน HSTC ทำงานในระดับต่ำ ABS ทำงานสูงสุด
Rain – การตอบสนองของเครื่องยนต์และเอ็นจิ้นเบรกทำงานในระดับต่ำ ส่วน HSTC และ ABS จะทำงานในระดับสูงสุด
Gravel – พละกำลังและเอ็นจิ้นเบรกสูงสุดแต่ HSTC และ ABS จะทำงานในระดับต่ำ
Honda Selectable Torque Control ทำงานได้นุ่มนวลมากว่าเดิม ควบคุมได้มั่นใจกว่าเดิม ปรับได้ 3 ระดับและเลือกปิดได้
ระดับ 1 ยอมให้ล้อหลังปั่น สำหรับทางฝุ่นหรือทางกรวด
ระดับ 2 ให้ความมั่นใจในการขับขี่ สำหรับรูปแบบการขับขี่ทั่วไป
ระดับ 3 ให้ความปลอดภัยสูงสุดบนทางเส้นลื่น
รูปแบบการทำงานของ DCT ผ่านคันเร่งไฟฟ้านั้นจะมี 5 รูปแบบ ดังนี้
Level 1 – ให้ความสบายนุ่มนวล เปลี่ยนเกียร์ในรอบต่ำ ใช้ในโหมด Rain
Level 2 – ทำงานแบบสบายๆ ด้วยค่ากลาง ใช้ในโหมด Standard
Level 3 – ทำงานระหว่างโหมด Standard และ Sport
Level 4 – ลากเหียร์ในรอบสูง ตบเกียร์ลงเร็วเพื่อเรียกเอ็นจิ้นเบรก ใช้ในโหมด Sport
Level 5 – ปุ่ม G-Mode ถูกรวมมาเป็น G Shift Pattern ให้ความสนุกในการขับขี่ทางกรวด เพิ่มการยึดเกาะ และควบคุมการสไลด์ในอย่างมั่นใจ สำหรับโหมด Gravel
ในโหมดการขับขี่ User จะสามารถเลือกรูปบบการเปลี่ยนเกียร์ DCT แบบใดก็ได้ รวมถึงตั้งค่า พละกำลังของเครื่องยนต์ เอ็นจิ้นเบรก ABS และ HSTC ได้อย่างอิสระ
กลับหน้าหลัก Autostation.com