แม้โฉมใหม่จะมาแต่เราก็ยังคิดว่า Honda Africa Twin โฉมเก่าก็ยังคงเป็นแอดเวนเจอร์ไบค์ที่เข้ามือเรามากที่สุด อาจจะเพระามีโอกาสได้ขี่มันบ่อยที่สุดในทุกรูปแบบ
ทริปนี้เรามีโอกาสได้ย้อนรอยทริป อุดร-เชียงคาน นานเกินใจที่ลูกค้า Honda BigBike เคยได้ร่วมเมื่อปีก่อนในกิจกรรม Xventure แต่ครั้งนี้โค้ชพี่เล่ นักเชือดแห่ง Bikelane Dirt Track Control ได้มีการบิดเส้นทางเล็กน้อย
ทริปในช่วงต้นปีแบบนี้สบายใจได้เลยว่าไม่มีฝน ขี่สนุก จะมีแต่ก็ฝุ่น PM2.5 จากการเผาทุ่งเผานา ทำให้แสบจมูกอยู่ตลอดการเดินทาง โดยเรามุ่งหน้าออกจาก Honda BigWing Udonthani ไปจุดหมายแรกคือภูฝอยลม



คงต้องไม่สาธยายถึงเจ้า Honda Africa Twin หรือ CRF1000L รุ่น DCT กันมากนัก เพราะรู้มือกันอยู่แล้ว การขับขี่บนทางดำ การควบคุม การเข้าโค้ง และแน่นอนการทำงานของชุดเกียร์ DCT นั้นยอดเยี่ยม
แม้ว่าจะใส่ยางหนาม แต่การขับขี่บนถนนนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร รถควบคุมได้ง่าย การเทโค้งต้องปรับตัวเล็กน้อย แค่วาดลวดลายได้ไม่เท่ากับยางเดิมติดรถ หรือยางที่หน้าเรียบก็เท่านั้น
ยอกภูฝอยลมนั้นเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการชมเมืองอุดรฯ แถมลมด้านบนก็เย็นสบาย ทางราดยางที่ขึ้นมาก็ไม่ยาก ไม่ได้มีโค้งที่รู้สึกว่าอันตราย แต่ขาลงจะไปธรรมดาก็ง่ายไปหน่อยเราเลยลงก็แบบทางออฟโร้ด ก่อนจะท่องบนทางดำยาวๆ ไปยังเชียงคาน
เครื่องยนต์ 1000 ซีซี สองสูบเรียง ทำงานร่วมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง HSTC ร่วมถึงระบบ DCT ได้อย่างลื่นไหลและเพลิดเพลินตลอดการขับขี่ และยิ่งเราเคยผ่านเรื่องราวที่ยากมากๆ มา ทำให้ทริปนี่สบายสุดๆ
วันถัดมาเราออกเดินทางจากริมโขงเพื่อมุ่งหน้ากลับอุดรฯ แต่เส้นทางไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ลืมเรื่องทางราดยางไปได้เลย เพราะเช้านี่โค้ชพี่เล่พาเราขึ้นเขาเพื่อตัดไปลงอีกฝั่งเขา ผมกดสวิตช์ที่แฮนด์เพื่อปรับ HSTC หรือ Traction Control ให้เหลือระดับ 1 เพื่อลุยเข้าทางดิน
หลังจากทางดินร่วนๆ ลาดๆ ก็กลาเยป็นทางที่เป็นหลุม เนิน หิน ที่ค่อยๆ ชันขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่า Africa Twin พาเราผ่านอุปสรรคได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ปัญหา แต่ถ้ามันง่ายแบบนั้นทริปนี่ก็คงไร้เรื่องให้จดจำ
ในขณะที่กำลังไต่เขาหินขึ้นไปนั้นเองอยู่ๆ ขบวนข้างหน้าก็หยุดลง แล้วก็เห็นคนล้มตึงอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก แต่หลังจากที่ยกรถขึ้นขบวนก็ไม่ได้เคลื่อนตัวต่อ นั่นก็เพราะมีรถแคร้งแตก ใช่ครับครั้งก่อนที่เราไปภูเก็ตก็แคร้งทะลุ ครั้งนี้ก็เช่นกัน
Honda X-ADV แอดเวนเจอร์สกู๊ตเตอร์เจอเพื่อซี้ที่รอเขามานานอาจจะชั่วชีวิต นั่นก็คือก้อนหิน ก้อนหินที่ปักอยู่ในดินมานานเท่านาน เพื่อรอวันที่ X-ADV มาปะทะกับมันจนน้ำมันเครื่องไหลนอง
ชาวคณะตัดสินใจเดินทางกันต่อ โดยมีทิ้งและเพื่อร่วมทางอีก 3 ท่านที่ช่วยกันพยายามพารถกลับลงมาจากเขา ก่อนที่เจ้าถิ่นจะขี่รถย้อนกลับไปเอารถกระบะมายกรถกลับลงไป โดยเหลือ Africa Twin และ CB500X สองคัน รีบขี่ตามไปสบทบขบวนที่เหลือ



เรามาดักเจอขบวนที่ร้านกาแฟ ก่อนจะขี่ตัดทางดำไปเข้าทางดินร่วนๆ ขึ้นเขาอีกครั้ง เส้นทางส่วนมากนั้นเป็นเส้นทางที่ลัดเลาะไปมาระหว่างภูเขา ไร่ยาง ทางชาวบ้าน เส้นทางไม่ยาก ขี่ได้สบายๆ ลำบากก็แค่ฝุ่น ที่ทำให้มองไม่เห็นทาง ซึ่งถ้าเป็นฤดูฝนบอกได้เลยว่าหนังชีวิตแน่นอน
เส้นทางไร่ยางสนุกตรงที่ทุกอย่างดูเหมือนกันไปหมดจนทำให้เราหลง หรืออ่านทางผิดจนมีหลุดออกนอกทาง ให้ขำกันในหมวกกน็อคบ้าง แม้เส้นทางไม่ยากแต่จะทำความเร็วมากก็ไม่ได้เพราะเป็นทางที่ชาวบ้านใช้ จะได้ไม่อันตรายและรบกวนเจ้าบ้าน
กว่าเราจะมาถึงที่พักกินข้าวเที่ยง ชุดขี่ของเราก็แดงไปทั้งชุด เพราะดันอยู่ท้ายขบวน ทำให้ต้องกินฝุ่นคนอื่นไปเต็มๆ เราใช้โอกาสพักเช็คตำแหน่งบนแผนทีอีกครั้งจึงพบว่าเส้นทางเราเหมือนขี่สลับไปสลับมาระหว่างรอยต่อสองจังหวัด
หลังเติมพลังก็จะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของทางดินที่ยังคงเป็นป่ายาง แม้เราจะออกตัวหลังๆ แต่รอบนี้เราขอดันขึ้นมาอยู่กลางๆ ขบวน ก่อนที่จะมีช่วงที่สองคันข้างหน้าเราเสียจังหวะสะดุดกันการเนินทำให้เราต้องเร่งเเซงขึ้นมาเพื่อความปลอดภัย
ตอนนี้เราเลยถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว บวกกับความกลัวหลงเราเลยต้องยิ่งเปิดคันเร่งให้หนักขึ้น เร็วขึ้น เพื่อตามกลุ่มหน้า 3 คันให้ทัน ใช้เวลาสักพักจนคิดว่าหลงไปแล้วถ้าไม่เห็นว่ามีฝุ่นควันลอยละล่องอยู่ด้านหน้า ก่อนจะเห็นไฟท้ายลางๆ ท่ามกลางกลุ่มควันหนาๆ ชัดขึ้น
การเปิด HSTC ไว้ที่ระดับ 1 มีประโยชน์มากกว่าการที่ปิดไปเลย เพราะทำให้ล้อหลังไม่ลื่นในจังหวะที่พื้นไร้การยึดเกาะ และยังทำให้คุณยังคงกระแทกๆ คันเร่ง เพื่อเดินหน้าต่อไปได้ ช่วยให้การควบคุมรถให้สถานการณ์คับขันง่ายขึ้น
ไม่นานนักเราก็ตามมาจ่อก้น 3 คันข้างหน้าสุดได้ทัน แต่ก็ไม่ง่ายนักเพราะในจังหวะนี้ฝุ่นฟุ้งตลบจนมองทางข้างหน้าไม่เห็น อย่างกับขี่รถแข่ง Rally Dakar ตามตูดกันแบบติดๆ ทำให้แค่ยืนให้สูง มองให้ไกลเท่าที่ทำได้ ไม่ก็ทิ้งท้ายไปเลย
“พลุ่บ” ผมขึ้นกับหล่นทางท่ายืนขี่ลงมานั่งเพราะอยู่ๆ ล้มหน้าก็เสียอาการเมื่อจมหายไปซะดื้อๆ ทางดินร่วนๆ อยู่ๆ ก็กลายเป็นทางทรายตื้นบ้างลึกบ้าง ยิ่งทำให้ฝุ่นฟุ้งหนัก และควบคุมรถได้ยากมากกว่าเดิม นี่มันน้องๆ Rally Dakar แล้วนะเนี่ย
ในจังหวะที่มองไม่เห็นนี้ ผมพยายามเหยียดเท้าหาพื้นซึ่งแน่นอนว่าเจอแต่ทรายฟูๆ หนาๆ หาพื้นให้เหยียบไม่เจอ พอเงยหน้าขึ้นมาก็ปรากฎว่ามีไฟรถกระบสวนมาในระยะเกือบประชิด จนต้องรีบหักรถหลบอย่างรวดเร็ว รอดแบบเฉียดกันนิดเดียว
แน่นอนว่าการขับขี่ในบ่อทรายของเราก็ยังคงใช้การตั้งค่าเดิม คือ HSTC ระดับ 1 ยังเปิด ABS และปรับการเปลี่ยนเกียร์ DCT เป็นแบบ MT หรือแมนวล จนกระทั่งออกมาถึงทางดำที่กลับไปเปิด HSTC เต็มและซัดยาวกลับอุดรฯ
Honda Africa Twin มีท่านั่งที่สบายและรับสรีระที่หลากหลาย เพราะเบาะปรับได้สองระดับ แต่สำหรับเราก็มีแอบรู้สึกว่าเบาะแข็งจนเมื่อยตูดไปหน่อยเวลาที่ขี่ทางดำนานๆ ยืนขี่ ยืดขาเป็นช่วงๆ พอช่วยได้นะ
ในโอกาสที่รุ่นใหม่กำลังจะเปิดตัวในไทย เราว่าถ้าไม่ได้จำเป็นต้องใส่จอทัชสกรีนหรืออยากได้รุ่นใหม่ หาจับโฉมนี้มือสอง ราคาเบาๆ เอาไว้ขี่เที่ยวก็ยังโอเคอยู่นะ ยิ่งรุ่นปีหลังๆ มีการปรับเพิ่มออปชั่นหลายอย่างเลยด้วย
ขอขอบคุณ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด