Royal Enfield Meteor 350 เผยโฉมอย่างเป็นทางการในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว หลังเพิ่งมีการเปิดตัวในอินเดียและตลาดโลกไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน
Royal Enfield Meteor 350 สร้างขึ้นมาเป็นครูเซอร์ที่อยู่เหนือการเวลา พร้อมสำหรับการเดินทางไกลและพร้อมท้าทายทุกการเดินทางในเมือง ด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค 80’s ยุคสมัยของรถครูเซอร์ นำมาออกแบบใหม่ในปี 2020 ด้วยดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา
ตัวรถใช้หน้าไฟหน้าแบบฮาโลเจนแต่มีไฟ Light Guide แบบ LED ไฟท้าย LED ติดตั้งชิลด์หน้ามาให้ ถังน้ำมันทรงหยดน้ำคคลาสสิคใหญ่ถึง 15 ลิตร เบาะนั่งตอนยาวเล่นระดับ เตี้ย กว้าง นั่งสบาย ล้อหน้า 19 ล้อหลัง 17 นิ้ว เป็นล้อแม็กใส่ยางไซส์ 100 และ 170 ดิสก์เบรกหน้า 300 มม. คาลิเปอร์ลอยตัวสองลูกสูบ ดิสก์เดี่ยวหลังคาลิเปอร์ลอยตัวสูบเดี่ยว ABS Dual Channel
Royal Enfield Meteor 350 ใช้เครื่องยนต์สูบเดี่ยวใหม่เอี่ยม 349 ซีซี SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ เกียร์ 5 สปีด พละกำลังสูงสุด 20.4 hp ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 27 Nm ที่ 4,000 รอบต่อนาที ลืมเรื่องการสั่นเหมือนรถจะระเบิดในเครื่องยนต์ลูกเก่าไปได้ เพราะในเครื่องยนต์ลูกนี้จะส่งกำลังได้อย่างเรียบเนียบ ด้วยการเพิ่ม บาลานซ์ ชาร์ฟ เข้าไป ทำให้คุณสามารถขี่ทำความเร็วสูงได้โดยไม่ต้องทนกับแรงสั่นสะเทือนรุนแรงอีกต่อไป ตามคอนเซปต์ Easy Cruise
แชสซีออกแบบใหม่จาก Thunder Bird ทั้งหมด ทำให้รถมีบาลานซ์ที่ยอดเยี่ยม โช้คหน้าเทเลสโคปิคขนาด 41มม. ระยะยุบ 130 มม. โช้คหลังคู่ ปรับพรีโหลดได้ 6 ระดับ เฟรมที่แข็งแกร็งขึ้นทำให้ตัวรถมีความเสถียรมากขึ้นกว่าเดิมแม้ในความเร็วสูง ผ่านการทดสอบหลากหลายรูปแบบทั้งใน อังกฤษ ยุโรป และอินเดีย
เรือนไมล์ใน Royal Enfield Meteor 350 นั้นจะแยกไปสองส่วน ส่วนแรกคือจอหลัก ที่ให้วัดความเร็วแบบอนาล็อค แต่มีหน้าจอดิจิตอลอยู่ตรงกลางที่ให้ข้อมูลอื่นๆ อย่างครบถ้วน อีกจอขนาดเล็กที่ด้านขวาเรียกว่า Tripper Navigation
Tripper Navigation ครั้งแรกของค่ายที่มีระบบนำทางบนรถจักรยานยนต์ ทำงามร่วมกับ Google Maps และแอปฯ ของ Royal Enfield ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับมอเตอร์ไซค์ นำทางแบบโค้งต่อโค้ง ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับเส้นทางที่คุณจะไป สามารถกว่าจุดแวะได้ถึง 20 จุด และรถคันนี้ยังมีช่องจ่ายไป USB ติดตั้งมาให้
Royal Enfield Meteor 350 มีราคาจำหน่ายดังนี้
กลับหน้าหลัก Autostation.com