หลายปีที่ผ่านมา Harley-Davidson ยังไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาจากขาลงของตัวเองได้เลยแม้แต่ไตรมาสเดียว ถึงจะขึ้นปีใหม่มายอดขายในไตรมาสแรกของปีก็ยังคงติดลบต่อเนื่อง
แบรนด์ครูเซอร์อเมริกันยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบรับกับตลาดใหม่ๆ และลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ รวมถึงการอัพเกรดและพัฒนารถรุ่นดั่งเดิมให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นแต่ความพยายามของพวกเขาก็ยังไม่เป็นผลสักที
รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกประจำปี 2018 ของ Harley-Davidson รายงานว่าบริษัทมียอดขายทั่วโลกที่ลดลงรวม 7.2% เมื่อเทียบกับปี 2017 โดยตลาดอเมริกานั้นมีตัวเลขลดลงสูงสุดอย่างเห็นได้ชัดที่ 12% ส่วนตลาดนอกอเมริกานั้นเติบโตรวม 0.2%
ในด้านของผลประกอบการเองก็มีตัวเลขที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยรายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกอยู่ที่ 174.8 ล้านเหรียญสหรัฐลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ในไตรมาสแรกที่ 186.4 ล้านเหรียญสหรัฐราว 6.2%
หาเทียบตัวเลขของ Harley-Davidson ที่ลดลง 12% ในอเมริกากับตัวเลขตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดเกิน 600 ซีซี แล้วยอดขายของค่ายตราโล่ในอเมริกาก็ดูไม่ได้แย่มากนักเพราะตลาดเกิน 600 ซีซีในอเมริกานั้นติดลบถึง 11.1 %
นอกจากในอเมริกาแล้วยอดขายยังคงติดลบในหลายกลุ่มตลาดอย่าง เอเชีย-แปซิฟิค ติดลบ 7.8% แคนาดา ติดลบ 11.9% ส่วน ตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง และ แอฟริกานั้นมียอดขายเพิ่มขึ้น 6.8 % รวมถึงตลาดละตินอเมริกาที่บวกอยู่ 7.0 % พอตัวเลขเข้าด้วยกันแล้วตลาดนอกอเมริกาเลยยังเติบโตอยู่ที่ 0.2%
ค่ายตราโล่ยังคงมุ่งมั่นในการค้นหาบรรดานักขี่หน้าใหม่เข้ามาเป็นลูกค้า พยายามเสนอรถรุ่นใหม่ๆ ที่ราคาถูกลง เข้าถึงง่ายขึ้น ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนนี่จะเป็นงานหนักสักหน่อยของเจ้าพ่อครูเซอร์เมกันในช่วงนี้
ติดตามข่าวแวดวงยานยนต์ก่อนใครที่ Autostation.com