ในสภาวะที่ธุรกิจยานยนต์ดูจะหมุนไปฝั่งพลังงานไฟฟ้า ภาคธุรกิจเสริมต่างๆ ก็เริ่มปรับตัวให้รับกับยุคสมัยที่เขาว่ากำลังจะเปลี่ยนไป ทั้งภาคชิ้นส่วนประกอบและของแต่งอย่าง SC Project ก็ดีแต่จะมีสักกี่เจ้าที่มองว่าโลกยังไม่เปลี่ยนไปไวขนาดนั้นหรอก
Paolo Termignoni ลูกชายของเจ้าของผู้ก่อตั้งแบรนด์ท่อไอเสียชื่อดังอย่าง Termignoni ที่ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของ SC-Project หลังจากที่บริษัทของคุณพ่อถูกขายออกไป
SC-Project เป็นบริษัทที่ผลิตท่อไอเสียแต่งหรือ After Market ให้กับรถจักรยานยนต์มากมายหลายรุ่นตั้งแต่แบบ Slip-on ไปยันชุดท่อไอเสียที่ใช้ใส่ในรถแข่ง MotoGP อย่าง Honda RC213V
เขาเล่าว่าอุตสาหกรรมนี้ยังคงไปต่อได้อีก รถจักรยานยนต์แบบที่ใช้น้ำมันยังคงอยู่รอดต่อไป และคุณเองอาจคิดผิดที่พวกรถไฟฟ้านั้นจะทำให้บรรดาบริษัทของแต่งอย่าง SC-Project นั้นต้องมีปัญหา
แม้จะมียานยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นมาใหม่มากแต่บรรดานักขี่ที่หลงรักในการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิสหรือคนที่อยากขี่รถจักรยานยนต์ที่แท้จริงนั้นก็ยังมีอยู่มากมาย
“ผมว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคงไม่สร้างปัญหาให้กับธุรกิจของเรา พวกรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าก็โอเคสำหรับการใช้งานทั่วไปสำหรับการเดินทางในเมืองหรือในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับคนที่รักในการขับขี่มอเตอร์ไซค์เเล้วยังไงซะเขาก็อยากขี่มอเตอร์ไซค์มากกว่า”
“คำว่า Passion หรือใจรักในการขับขี่ไม่มีทางที่จะเข้าถึงโดยพวกรถรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า คนขี้มอเตอร์ไซค์ก็อยากได้ความรู้สึกของแรงสั่นสะเทือนขแงเครื่องยนต์และเสียงจากท่อไอเสีย” Paolo Termignoni กล่าว
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ายังเป็นเทคโนโลยีใหม่ แน่นอนว่านี่เป็นเทคโนโลยีของอนาคตแต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกนานในการพัฒนา อาจจะอีก 30-40 ปีกว่าจะเปลี่ยนผ่านได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ติดตามข่าวแวดวงยานยนต์ก่อนใครที่ Autostation.com