ขึ้นชื่อว่า หมูกรอบ นับว่าเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน ทั้งการทานแบบเป็นข้าวหมูแดง–หมูกรอบที่ราดน้ำจิ้มข้นๆ แกล้มซีอิ้วดำแบบดั้งเดิมไปจนถึง การทานหมูกรอบแบบเปล่าๆ หรือนำไปประกอบอาหารแบบต่างๆก็ไม่เว้น
โดยในวันนี้ทางทีมงานเราได้ตระเวนและรวบรวมร้านหมูกรอบเด็ดๆ แห่งเมืองนครปฐมที่ขึ้นชื่อในเรื่องของฟาร์มเพาะเลี้ยงสุกรอยู่แล้วมาให้ได้ชมกัน
เริ่มต้นกับร้านแรก อย่างร้านหงษ์หยก ที่แม้ดูผิวเผินจะเป็นเพียงสตรีทฟู๊ดข้างทาง กับรูปแบบของร้านรถเข็นตั้งอยู่ริมคูน้ำเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่อย่าดูถูกไป เพราะพักเที่ยงเมื่อใด คนมารอต่อคิวจนยาวเหยียดเลยทีเดียว
สำหรับหมูกรอบของร้านหงษ์หยกนั้น จะมาในสไตล์แบบบ้านๆ มีความกรอบ เค็ม และติดมัน สับซอยชิ้นเล็ก เสิร์ฟมาคู่เคียงกับ น้ำราดรสชาตออกหวานที่ทำขึ้นมาจากน้ำหมักหมู และขาดไม่ได้กับน้ำจิ้มที่เป็นซิกเนเจอร์ของชาวนครปฐม กับน้ำจิ้มรสเค็มตัดเปรี้ยวพร้อมพริกซอยแบบละเอียด
ซึ่งนอกจากหมูกรอบแล้ว ทางร้านยังมีเมนูข้าวรวม ที่นอกจากหมูกรอบแล้ว ยังมีหมูแดง ไก่ย่าง และไข่ต้มพะโล้ อัดแน่นพูนจานมาให้ได้ชิมกันอีกด้วย
ซึ่งสนนราคาร้านหงษ์หยก นั้นก็นับว่าเป็นมิตรแบบสุดๆอีกด้วย กับราคา จานเล็ก 30 และ จานใหญ่ 40 บาท สองราคาเท่านั้น
ต่อด้วยร้านที่สอง กับหนึ่งในร้านดั้งเดิมที่เปิดมานาน กับร้าน ตั้งฮะเส็ง ที่ตั้งอยู่บริเวณตลาดสดติดกับองค์ประปฐมเจดีย์ โดยอยู่ฝั่งตลาดล่าง สำหรับหมูกรอบของร้าน ตั้งฮะเส็ง นั้นมาแบบ หอมกลิ่นเครื่องเทศจีนอย่างสัมผัสได้ ตั้วเนื้อหมูกรอบมาแบบเนื้อครึ่งนึง มันครึ่งนึง ตัวหนังหมูกรอบเองไม่ได้เน้นความกรอบแบบเคี้ยวสะท้านฟัน แต่กลิ่นจากการหมักหมูรวมไปถึงน้ำราดก็ทำให้เอ็นจอยกับการเคี้ยวในแต่ละคำจนหมดได้อย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว
นอกจากหมูกรอบแล้ว ตั้งฮะเส็ง เองยังมีเมนูที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการมาหลายๆ คน แล้วแชร์กันสั่งอาหารหลายๆ อย่างมาทานร่วมกัน ทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ข้าวหน้าไก่ ข้าวหมูแดง หมูสะเต๊ะ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น และที่อยากจะแนะนำอีกอย่างคือ เต้าหู้ทอด ที่กรอบอร่อยไม่แพ้หมูกรอบเลยล่ะครับ
สนนราคา เมนูต่างๆ ในร้าน เริ่มที่ 40 บาท ถ้าสั่งพิเศษก็จัดไปที่ 55 บาท
ต่อกันที่ร้านที่สาม กับร้าน ส้มข้าวหมูแดง ที่บอกตามตรงว่าผู้เขียนเองแอบเทใจให้กับตัวหมูกรอบของร้านนี้เลยทีเดียว ด้วยตัวหมูกรอบที่มาพร้อมหนังฟูกรอบคล้ายกับแคปหมู แต่เนื้อด้านในที่ยังมีความแน่นแต่ไม่แห้ง ตัดกับมันหมูที่แซมมาเล็กน้อย รสชาตกลางๆ ไม่เค็มจนโดด บอกเลยว่า ราดข้าวทานกับน้ำราดแบบดั้งเดิม หรือว่าเอาไปทำอาหารต่อก็ได้ทั้งนั้น
นอกจากเมนูหมูกรอบ ในร้านเองยังมีเมนูอื่นๆ ทั้ง ข้าวมันไก่–ไก่ย่าง และบะหมี่น้ำใส–ต้มยำ–เย็นตาโฟ ที่อร่อย เหมือนทานรสมือคุณย่าคุณยายทำให้กินเองเลย
สนนราคาเมนูต่างๆ ในร้านส้มหมูกรอบ เริ่มต้นที่ 35 บาท และ พิเศษ 40 บาท ส่วนหมูกรอบเปล่าๆ นั้นก็สามารถสั่งได้ กับหมูกรอบ 3 ขีด 170 บาท
ปิดท้ายด้วยร้านสุดท้ายกับ ร้านฮิ้น ขวัญใจเด็กศิลปากรด้วยความที่ตั้งอยู่บริเวณข้างมหาวิทยาลัยเลย ตัวหมูกรอบของร้านฮิ้นเอง โดดเด่นด้วยความกรอบของหนัง ตัดกับความมัน จนแอบเลี่ยนเล็กๆ ซึ่งทางร้านเองก็มีน้ำจิ้มหลากรูปแบบมาให้ทานคู่กับหมูกรอบ เพื่อช่วยเพิ่มรสชาตและตัดเลี่ยนไป
ซึ่งนอกจากเมนูหมูกรอบแล้ว ร้านฮิ้นนับว่ามีเมนู และน้ำจิ้มที่หลากหลายเช่นกัน ทั้งข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ข้าวหน้าไก่ ข้าวหน้าเป็ด ข้าวไก่กรอบ ข้าวเป็ดกรอบ หรือถ้าคิดอะไรไม่ออกก็จัดมันรวมกันไปกับข้าวรวมมิตร เลยก็ได้
สนนราคาของร้านฮิ้น นั้นเริ่มต้นที่ 35 – 60 บาท ถ้าเพิ่มไข่ต้มก็บวกไปอีก 10 บาท เท่านั้น
และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของร้านหมูกรอบที่เราได้ไปทดลองชิมกันมาซึ่งแน่นอนว่าในเมืองนครปฐมเองยังมีร้านหมูกรอบเด็ดๆ อีกมากมายที่เรายังไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนซึ่งถ้าใครมีร้านไหนเด็ดๆ ก็อย่าพลาดที่จะเข้ามาแชร์ให้พวกเราได้รู้กันเผื่อในอนาคตจะได้ตามกลับไปซ้ำกันอีกสักรอบ
ส่วนใครที่อยากรับชมแบบวิดิโอก็ตามไปชมได้ตามด้านล่างนี้เลยครับ