เปิดตัว Honda City e:HEV ซีดานไฮบริดที่ไม่ใช่แค่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีไฮบริดจากฮอนด้า แต่ยังมีออปชั่นล้นคันจากฐานภาษีที่ถูกกว่า Honda City ปกติ
Honda City e:HEV มีราคาจำหน่ายที่ 8.39 แสนบาท
เครื่องยนต์
ขุมพลังของ Honda City e:HEV เป็นแบบ Full Hybrid ระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)
เครื่องยนต์ให้พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 3,500 – 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 127 Nm ที่ 4,500 – 5,000 รอบต่อนาที | มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวให้พละกำลัง 108 แรงม้าที่ 3,500 – 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 253 Nm ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลือง 27.8 กม./ลิตร รองรับน้ำมัน E20
ดีไซน์ภายนอก
- ไฟหน้าแบบ LED
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
- กระจังหน้าแบบ Gloss Black
- โลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark)
- กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า
- สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black
- สัญลักษณ์ RS และ e:HEV
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต
ดีไซน์ภายใน
- เบาะที่นั่งหนังกลับดีไซน์สปอร์ต ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
- ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ
- คอนโซลหน้าแบบ Piano Black
- ที่วางแขนคอนโซลกลาง
- พนักเท้าแขนด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ
- มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม
- แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- ช่องปรับอากาศตอนหลัง
- ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
- รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay
- ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI
- ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่อง
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
เทคโนโลยีความปลอดภัย
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
- ระบบ Brake Hold อัตโนมัติ (Auto Brake Hold)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
- ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist -VSA)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS)
Honda SENSING
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
Honda Connect
ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ พร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงาน โดยมี 8 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก
1. My Service
ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
2. Car Log
ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก
และทวิตเตอร์
3. WiFi
สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์
มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตรโดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง
* ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส)
โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
4. Airbag Deployment
เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไป ยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
5. Car Status
แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตูกระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
6. Remote Vehicle Control
สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมดอีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์และการสั่งดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้ายโดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
7. Geo Fence – Speed Alert
สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
8. Find My Car
ตรวจสอบพิกัดรถยนต์โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
Honda City e:HEV มีให้เลือก 6 สีสัน
สีใหม่ สีน้ำเงินออบซิเดียน(มุก) +6,000 บาท
สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
สีขาวแพลทินัม (มุก) + 10,000 บาท
สีดำคริสตัล (มุก) +6,000 บาท
สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)
Honda City e:HEV มีราคาจำหน่ายที่ 8.39 แสนบาท
กลับหน้าหลัก Autostation.com